วันศุกร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

จดหมายเปิดผนึก ฉบับที่ 2/2557 เรื่อง "พรรค คสช. ต่อสู้เอาชนะพรรคเผด็จการรัฐสภาทุนผูกขาดทุนสามานย์...???"

จดหมายเปิดผนึก
ฉบับที่ 2/2557
ถึงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ นำโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา
เรื่อง "พรรค คสช. ต่อสู้เอาชนะพรรคเผด็จการรัฐสภาทุนผูกขาดทุนสามานย์...???"

อันว่ากฎหมายพรรคการเมืองและกฎหมายเลือกตั้ง...เป็นกฎหมายเผด็จการที่สร้างพรรคนายทุนผูกขาดสามานย์ให้รักษาระบอบเผด็จการรัฐสภา กุมรัฐตลอดมา...เป็นอุปสรรคต่อการสร้างระบอบประชาธิปไตย ต่อการสร้างระบอบประชาธิปไตย ต่อการสร้างพรรคประชาธิปไตย หรือพรรคมวลชนประชาธิปไตย(Mass Party) ต่อการสร้างการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตย...!!!

พรรคเหล่านี้ดำรงอยู่ 2 สภาวะ คือ...
- ดำรงอยู่ตามธรรมชาติ..เป็น.."พรรคการเมืองตามธรรมชาติ"
- ดำรงอยู่ตามกฎหมาย..เป็น.."พรรคการเมืองตามกฎหมาย"
คือ..กฎหมายพรรคการเมืองอันเป็นกฎหมายเผด็จการ ของระบอบเผด็จการรัฐสภา หรือ อำนาจอธิปไตยของคนส่วนน้อย

พรรคเหล่านี้รับมรดกคณะราษฎรมาทำลายความั่นคงของรัฐและความปลอดภัยของประชาชน ทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำลายกองทัพแห่งชาติ...ดังนั้น คสช.ซึ่งเป็นพรรคการเมืองตามธรรมชาติและตามกฎหมายสูงสุด(Supreme Law)ที่กองทัพแห่งชาติได้ตั้งขึ้นกุมรัฐ(กุมอำนาจรัฐ และกุมกลไกแห่งรัฐ)...เพื่อต่อสู้เอาชนะพรรคเผด็จการรัฐสภา ต่อสู้เอาชนะระบอบเผด็จการรัฐสภา ต่อสู้เอาชนะลัทธิเผด็จการ(ลัทธิรัฐธรรมนูญ) ต่อสู้เอาชนะมวลชนเผด็จการที่รักษาระบอบเผด็จการ ต่อสู้เอาชนะระบบทุนผูกขาดสามานย์ของพรรคทุนผูกขาดสามานย์...เมื่อก่อนคอมมิวนิสต์คือคู่ต่อสู้ของกองทัพแห่งชาติ...แต่ปัจจุบันคู่ต่อสู้ของกองทัพแห่งชาติ..คือ.."เผด็จการรัฐสภา" ที่กองทัพแห่งชาติได้โค่นลงไปเมื่อวันที่ 22 พ.ค. 57 เมื่อเวลา 16.30 น. นั่นเอง....แล้วจะเอาเผด็จการรัฐสภากลับมาอีกทำไม...ยกเลิกกฎหมายพรรคการเมือง(เผด็จการ)และกฎหมายเลือกตั้ง(เผด็จการ)กลับมาอีกทำไม....???

ถ้า คสช.เอาเผด็จการรัฐสภากลับมาอีก โดยการคงกฎหมายพรรคการเมืองและกฎหมายเลือกตั้งแบบเผด็จการนี้ไว้...ก็จะผิดพลาดเป็นประวัติศาสตร์ซ้ำรอย รสช.และ คมช. คสช.จะถูกทำลาย กองทัพแห่งชาติจะถูกทำลายอีกเช่นเดิม

เพราะพรรคการเมืองซึ่งมีหน้าที่กุมรัฐ (กุมอำนาจรัฐ และกุมกลไกแห่งรัฐ)นั้น...จะพัฒนาและเติบโตตามธรรมชาติของพรรคการเมือง ไม่ใช่เอากฎหมายไปสร้างพรรคการเมืองให้เกิดขึ้นและเติบโตเข้มแข็งได้ และเมื่อพรรคกุมรัฐ คือ พรรคอยู่เหนือรัฐ จะไม่มีกฎหมายพรรคการเมืองของรัฐ(State)มากุมพรรคการเมือง(Political Party) การมีกฎหมายพรรคการเมือง คือ การทำผิดหลักวิชาการรัฐศาสตร์อย่างร้ายแรง กลับหัวกลับหางกัน หรือ เอาเท้ามาคิดต่างหัว เอาหัวมาเดินต่างเท้า นั่นเอง
จึงเกิดความล้มเหลวในการสร้างระบอบประชาธิปไตย และสร้างพรรคประชาธิปไตยไม่สำเร็จตลอดมา ยังกลับเป็นการรักษาระบอบเผด็จการรัฐสภาไว้อีกต่างหาก เพราะเป็นการรักษาพรรคการเมืองทุนผูกขาดสามานย์ของระบอบเผด็จการรัฐสภาไว้ตลอดมาอีกด้วย ดังนั้น จะต้องปลอดปล่อยให้ประชาชนสามารถสร้างพรรคการเมืองของตนเองได้ตามธรรมชาติ เหมือนพรรคการเมืองในประเทศประชาธิปไตยทั้งหลาย ไม่มีกฎหมายพรรคการเมืองมากุมพรรคแต่อย่างใดทั้งสิ้น มีแต่พรรคกุมรัฐทั้งสิ้น พรรคการเมืองในประเทศเหล่านี้จึงเป็นระบบพรรคที่ก่อเกิดเติบใหญ่เข้มแข็ง
เป็นพรรคประชาธิปไตย สร้างและพัฒนาและรักษาระบอบประชาธิปไตยได้ตลอดมาอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

อนึ่ง...โดยแท้จริงแล้ว...คณะรักษาความสงบแห่งชาติ คือ.."พรรคการเมืองตามธรรมชาติและตามกฎหมายสูงสุด" ซึ่งก่อตั้งโดยกองทัพแห่งชาติ เพื่อขึ้นมาดำเนินงานทางการเมืองรักษาความมั่นคงของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และรักษาความปลอดภัยของประชาชน ด้วยการสร้างระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง เช่น.. โดยยกเลิกระบอบเผด็จการรัฐสภา ยกเลิกรัฐสภาเผด็จการชนิดเก่า ยกเลิกรัฐบาลเผด็จการชนิดเก่า ยกเลิกรัฐธรรมนูญเผด็จการชนิดเก่า ยกเลิกพรรคการเมืองเผด็จการชนิดเก่า ยกเลิกมวลชนเผด็จการชนิดเก่า ทั้ง นปช. กปปส. และยกเลิกกฎหมายแรงงานรัฐวิสาหกิจที่ครอบงำกรรมกรรัฐวิสาหกิจ ปลดปล่อยกรรมกรรัฐวิสาหกิจให้เป็นอิสระ เพื่อช่วยสนับสนุนผลักดันให้ คสช.มีชัยชนะ สร้างประชาธิปไตยสำเร็จ ซึ่งการช่วยผลักดันของกรรมกรรัฐวิสาหกิจจะทำให้นายทุนผูกขาด และทุนข้ามชาติพ่ายแพ้ต่อ คสช. เพราะกรรมกรเป็นคู่ต่อสู้ คู่ขัดแย้ง ที่นายทุนผูกดขาดและทุนข้ามชาติไม่อาจจะต่อสู้เอาชนะได้อย่างสิ้นเชิง กรรมกรไทยจะมีชัยชนะทุนผูกขาดและทุนข้ามชาติสถานเดียว ถ้ากรรมกรไทยใช้รูปการผลักดันอย่างสันติสูงสุดตามกฎขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ(International Labour Organization - ILO)ของสหประชาชาติ คือ การหยุดงานทั่วไปเพื่อสร้างประชาธิปไตย(General Strike) อันเป็นความร่วมมือของ.."กองทัพทหารไทย..กับ..กองทัพกรรมกรไทย" อันเป็นการยึดอำนาจทั้งทางการเมือง และอำนาจทางเศรษฐกิจ นั่นเอง ที่เป็นชัยชนะอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดต่อทุนผูกขาดสามานย์และทุนข้ามชาติที่รุกรานแทรกแซงประเทศไทยอยู่ในขณะนี้

โดยแท้จริงแล้ว เมื่อยกเลิกรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 ไปแล้ว กฎหมายลูก(Organic Law)หรือกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญก็ต้องสิ้นสภาพไปอย่างเป็นไปเองอยู่โดยอัตโนมัติอย่างเป็นไปเอง พรรคเผด็จการรัฐสภาทุนผูกขาดสามานย์ก็สิ้นสภาพไปโดยกฎหมาย เหลือแต่พรรคตามกฎหมาย ซึ่งยกเลิกพรรคเผด็จการตามธรรมชาติซ้ำอีกครั้งหนึ่งโดยการสร้างประชาธิปไตย หรือการสร้างพรรคประชาธิปไตยขึ้นมา

ภารภิจเร่งด่วนเฉพาะหน้า..คือ.....รีบลงมือทำาการจัดตั้งสร้าง..."พรรคคณะรักษาความสงบแห่งชาติ"(พรรค คสช.) ทั้งงานทางด้านการเมือง และงานทางด้านการจัดตั้ง...ให้เป็นพรรคการเมืองประชาธิปไตย มีลักษณะเป็นพรรคมวลชนของประชาชน(Mass Party) เป็นพรรคปกครอง(Ruling Party) อันเป็นพรรคปฏิวัติ(Revolutionary Party)...ด้วยมาตรการดังต่อไปนี้...

1. จัดทำหลักนโยบาย และนโยบายของพรรค คสช. เช่นเดียวกับพรรคการเมืองทั่วไปทั้งนโยบายหลัก และนโยบายเร่งด่วนเฉพาะหน้า เพื่อมอบให้สภาเฉพาะกาลและรัฐบาลเฉพาะกาลรับเอาไปปฏิบัติให้แล้วเสร็จต่อไป ซึ่งมาจากอุดมการ.."ลัทธิประชาธิปไตย"(Democracy) และอุดมคติสังคมประชาธิปไตย(Democratic Society) ตามพระบรมราโชบายสถาปนาการปกครองแบบประชาธิปไตยของสมเด็จพระปกเกล้า ร.7 และพระบรมราชโองการของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่พระราชทานเมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2516 ว่า..."จัดให้มีการปกครองแบบประชาธิปไตยที่เหมาะสมกับประเทศชาติบ้านเมือง" และนโยบาย 66/23 ขั้นตอนที่ 2 คือ สร้างประชาธิปไตยระดับสูง อันเป็นขั้นตอนสุดท้ายที่ยังไม่ได้รับปฏิบัติให้แล้วเสร็จ

2. รุกทางการเมืองด้วยการยกเลิกระบอบเผด็จการรัฐสภา สร้างระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง...โดยใช้แนวทางและนโยบายสร้างประชาธิปไตยและหลักนโยบายทั้งสิ้น ต่อเผด็จการรัฐสภา เผด็จการคอมมิวนิสต์ ต่อเผด็จการต่างชาติ หักล้างการรุกต่อ คสช.ทั้งสิ้น ด้วยการรุกกลับ(Counter Offensive)เอาชนะเผด็จการทั้ง 3 ชนิด ด้วยมาตรการ(Measure)ประกาศและรณรงค์(Campaign)ออกไปอย่างกว้างขวางที่สุดเท่าที่จะทำได้

3. กระทำการรุกทางการเมือง(Practice the Counter Offensive)...ด้วยการปฏิบัตินโยบายของพรรค คสช.ให้ปรากฎเป็นจริง มีผลอันเป็นผลประโยชน์และความสุขแก่ประชาชนทุกคนในประเทศอย่างกว้างขวางเป็นธรรมยั่งยืนตลอดไป อันเป็นการต่อสู้เอาชนะขั้นเบ็ดเสร็จเด็ดขาดสิ้นเชิงต่อเผด็จการ 3 ชนิด จะเป็นการโดดเดี่ยวเผด็จการทั้ง 3 ชนิดออกจากประชาชนและประชาชาติทั้งสิ้น และประชาชนและประชาชาติทั้งสิ้นจะหันมาสนับสนุนและรักษาปกป้อง คณะ คสช. ให้ปลอดภัยตลอดไป ไม่มีใครมีทำลายโค่นล้มได้อย่างสิ้นเชิง

4. จัดตั้งพรรค คสช. (Get Organize)ให้มีลักษณะเป็นพรรคของประชาชน เป็นพรรคประชาธิปไตย เป็นพรรคมวลชนอย่างกว้างใหญ่ไพศาลทั่วทั้งประเทศ ด้วยการขยายการจัดตั้งควบคู่ไปกับรัฐ คือ...
- คสช.ตำบล
- คสช.อำเภอ
- คสช.จังหวัด
- คสช.แห่งชาติ
(ตามกฎเกณฑ์...พรรคกุมรัฐ)
เปิดรับสมาชิกพรรค คสช. ทั่วประเทศอย่างกว้างขวางที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสเข้าร่วมกับ ซึ่ง รสช. และ คมช.ไม่ดำเนินการให้ประชาชนเป็นเจ้าของพรรค รสช.และ คมช. ไม่เอาหลังพิงประชาชน ไม่ให้ประชาชนเป็นเจ้าของพรรค จึงโดดเดี่ยวจากประชาชน เปิดช่องเป็นเงื่อนไขให้ฝ่ายตรงข้ามทำลายโค่นล้มได้ในที่สุด โดยใช้ประชาชนเป็นเครื่องมือ ดังนั้น จะต้องรีบดังประชาชนเข้าร่วมกับคสช.เสียก่อน อันเป็นการ..."เอาพวกก้าวหน้า..ดึงพวกกลางๆ..โดดเดี่ยวพวกล้าหลัง"...นั่นเอง

5. ติดอาวุธทางความคิด(Ideological Weapon) ให้แก่ประชาชนทั้งประเทศ ด้วยลัทธิประชาธิปไตย ตามแนวทาง ร.5 ร.6 ร.7 และนโยบาย 66/23 โดยใช้สื่อของรัฐและของเอกชนทั้งสิ้น(Press Organ) เป็นกลไกติดอาวุธทางความคิด และจัดประชุมสัมมนา ศึกษาหล่อหลอม จัดตั้งทางความคิดให้เต็มที่และแหลมคมแจ่มชัดตัดขาวตัดดำ(Sharp& Keen, Clear & Cut)

6. จัดตั้งมวลชนประชาธิปไตย(Democratic Masses) อย่างกว้างใหญ่ไพศาล โดยส่งเสริมให้ประชาชนจัดตั้งกลุ่ม องค์กร ชมรม สภา สมัชชา สหภาพ ขบวนการฯ ..ฯลฯ ให้มากที่สุด ทั้งในลักษณะ..
- กลุ่มผลประโยชน์(Interest Group)
- กลุ่มผลักดัน(Pressure Group)
ให้มวลชนมีความเป็นอิสระ โดยมีอุมดมการลัทธิประชาธิปไตย และมีอุดมคติสังคมประชาธิปไตย ตามลักษณะขององค์การ
มวลชน(Mass Organization)ที่กว้างใหญ่ไพศาลที่สุด

หมายเหตุ...
- การเมืองอยู่ที่..คสช.
- การปกครองอยู่ที่รัฐ
- การทหารอยู่ที่กองทัพ
- การมวลชนอยู่ที่ประชาชน
สรุป...คสช.กุมรัฐ กุมกองทัพ กุมมวลชน นั่นเอง

ของแสดงความนับถือเป็นอย่างยิ่ง

คณะวิชาการและยุทธศาสตร์และการจัดตั้ง
องค์การนำใหม่สภาประชาชนปฏิวัติสันติแห่งชาติ
ขบวนการประชาธิปไตยแห่งชาติ
(นายสมาน ศรีงาม โทร.0898860868)
4 มิถุนายน 2557