วันศุกร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

จดหมายเปิดผนึก ฉบับที่ 8/2557 เรื่อง ด่วน คสช. ระวังอันตราย...!!! จากภัยของรัฐธรรมนูญชั่วคราวของลัทธิเผด็จการ

"ภัยจากลัทธิรัฐธรรมนูญต่อประเทศไทย"...!!! 
เรียน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
เรื่อง ด่วน...คสช.อันตราย..จากภัยรัฐธรรมนูญชั่วคราวของลัทธิเผด็จการ 
จดหมายเปิดผนึก 
สภาประชาชนปฏิวัติสันติแห่งชาติ 
ฉบับที่ 8/2557
วันที่ 2 กรกฎาคม 2557

เรื่อง ด่วน คสช. ระวังอันตราย...!!! จากภัยของรัฐธรรมนูญชั่วคราวของลัทธิเผด็จการ
เรียน พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ

ตามที่นายวิษณุ เครืองาม ได้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี พ.ศ. 2557 เสร็จแล้วจำนวน 45 มาตรา โดยมี..“8 ประเด็นปัญหาใหญ่”..และ.. “ปัญหาการนิโทษกรรมซึ่งกำหนดในรัฐธรรมนูญชั่วคราวที่ผิดพลาดอย่างร้ายแรง ทำให้ คสช.ยอมรับว่าทำการรัฐประหารที่ผิดกฎหมายและรุนแรง”...ตามที่หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ได้ลงตีพิมพ์พาดหัวว่า.."คสช.ขี่รัฐบาล !" ทำให้เกิดปัญหาใหญ่ขึ้นมาอย่างมากมายโดยทันที...เพราะขณะนี้เป็นช่วงระยะเวลาของงาน.."นโยบาย"..เพื่อยกเลิกระบอบเผด็จการรัฐสภา สร้างระบอบประชาธิปไตย และนำเอาระบอบประชาธิปไตยไปแก้ปัญหา อย่างทั่วด้าน ทั้งด้านการเมือง ด้านเศรษฐกิจ ด้านวัฒนธรรม ด้านสังคม ด้านความมั่นคง ด้านระหว่างประเทศ ฯลฯ ให้แล้วเสร็จเสียก่อน...แล้วจึงมาร่างรัฐธรรมนูญรักษาความสำเร็จของการสร้างประชาธิปไตยอย่างทั่วด้านไว้ในรัฐธรรมนูญต่อไป...การร่างรัฐธรรมนูญก็จะไม่เกิดปัญหาขึ้นมาดังเช่นที่ร่างรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี พ.ศ. 2557 ที่กำลังก่อปัญหาใหญ่ให้แก่ คสช.และประเทศชาติดังเช่นข้อเท็จจริง(Fact)ที่เป็นประจักษ์พยานหลักฐานยืนยันอยู่ในขณะนี้...แต่ถ้า คสช.ไปปฏิบัติภารกิจในด้านนโยบายให้แล้วเสร็จเสียก่อน...ก็จะไม่มีปัญหาภัยของรัฐธรรมนูญของลัทธิเผด็จการมาทำลาย คสช.และทำลายภารกิจของ คสช.ให้พังไปเลยแม้แต่น้อย...ตอนนี้เป็นช่วงระยะเวลาของการปฏิบัตินโยบายแก้ปัญหาชาติและแก้ปัญหาประชาชนให้สำเร็จเสร็จสิ้นเสียก่อน...โดย คสช. ใช้อำนาจอธิปไตยสูงสุดสมบูรณ์เข้าปฏิบัตินโยบายได้อย่างสะดวกรวดเร็วให้บรรลุความสำเร็จได้อย่างง่ายดายเพราะ.. “มีอำนาจเต็ม(Might is right)ย่อมมีความชอบธรรมในการใช้อำนาจปฏิบัตินโยบาย เพราะการปฏิบัตินโยบายนั้น” จะมีความยืดหยุ่น จนกว่าจะแล้วเสร็จ โดยไม่มีอุปสรรคต่อการปฏิบัตินโยบายอย่างเด็ดขาด และไม่มีความผิดแต่อย่างใดทั้งสิ้น ใครๆก็จะไปต่อว่าโจมตีทำลายโค่นล้ม คสช.ไม่ได้ เพราะเป็น.. “งานนโยบาย(Policy)”..อันเป็นงานสร้างประชาธิปไตยทำได้จนกว่าจะสำเร็จถ้ายังไม่สำเร็จหรือทำผิดก็แก้ไขใหม่ได้ไม่ผิดกฎหมาย...แต่ถ้าเป็น.. “งานกฎหมายรัฐธรรมนูญ”..อันเป็นงานรักษาประชาธิปไตยแล้ว จะต้องเป็นกฎหมาย(Law)ที่ต้องตายตัวไม่สามารถยืดหยุ่นได้เลยแม้แต่น้อย ถ้าไม่ทำหรือทำผิดรัฐธรรมนูญก็ไม่อาจจะทำได้เลยอย่างสิ้นเชิงและจะมีความผิดทันที

ช่วงระยะการปกครองเฉพาะกาลนี้...เป็นช่วงของนโยบายเป็นสำคัญที่สุด
ไม่ใช่ช่วงของกฎหมายรัฐธรรมนูญที่เป็นช่วงท้ายสุด นั่นคือ...

- ช่วงสร้างประชาธิปไตยจะใช้นโยบายซึ่งสามารถปฏิบัตินโยบายได้สะดวก
จะไม่มีกฎหมายรัฐธรรมนูญมาเป็นอุปสรรคแต่อย่างใดทั้งสิ้น แม้จำเป็นจะต้องมีรัฐธรรมนูญ..ก็จะเป็นรัฐธรรมนูญที่มีลักษณะเฉพาะกาลคือรัฐธรรมนูญชั่วคราวเพื่อสร้างประชาธิปไตย..ที่จะให้อำนาจแก่ผู้สร้างประชาธิปไตยอย่างเต็มที่ไม่จำกัดอำนาจ หรือบั่นทอดลิดรอนอำนาจโดยเด็ดขาด และจะไม่จำกัดเรื่องเวลา หรือรายละเอียดต่างๆที่เป็นลักษณะของนโยบาย แต่จะเป็นหลักกว้างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การปฏิบัตินโยบายสร้างประชาธิปไตยจนกว่าจะแล้วเสร็จ ไม่จำกัดกรอบตายตัว แต่จะให้โอกาสยืดหยุ่นปรับเปลี่ยนได้เพื่อความสำเร็จของภารกิจเป็นเงื่อนไขชี้ขาด ดังเช่น รัฐธรรมนูญเฉพาะกาลของสมเด็จพระปกเกล้า 12 มาตรา เพียงแต่เปลี่ยนจาก.."พระปกเกล้า..มาเป็น..คณะรักษาความสงบแห่งชาติ"..เท่านั้น

- ช่วงรักษาประชาธิปไตยที่สร้างเสร็จแล้ว หลังจากช่วงสร้างประชาธิปไตยโดยนโยบายในช่วงแรก...จะร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวรมาสะท้อนภาพและรักษาประชาธิปไตยที่สร้างเสร็จแล้วไว้ในรัฐธรรมนูญต่อไป...ซึ่งประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญถึง 18 ฉบับ แต่ไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับใดเลยที่ทำหน้าที่อย่างถูกต้องตามกฎเกณฑ์ แต่กลับเป็นรัฐธรรมนูญที่ทำผิดหน้าที่และผิดขั้นตอนทั้งสิ้น จึงทำให้รัฐธรรมนูญเหล่านั้นถูกฉีกทิ้งทุกฉบับ ไม่อาจจะดำรงอยู่ได้เลยอย่างสิ้นเชิง นั้นคือ...
1. ผิดหน้าที่ของรัฐธรรมนูญ..คือ..ใช้รัฐธรรมนูญสร้างประชาธิปไตยแทนนโยบาย
2. ผิดขั้นตอนของรัฐธรรมนูญ..คือ..ใช้รัฐธรรมนูญตั้งแต่ขั้นสร้างประชาธิปไตย
3. รัฐธรรมนูญชั่วครามหรือเฉพาะกาล..ทำผิดหน้าที่..แทนที่จะช่วยสร้างประชาธิปไตย..กลับกำหนดให้ไม่มีขั้นตอนการสร้างประชาธิปไตย..แต่ไปกำหนดก้าวข้ามให้เป็นขั้นตอนการสร้างรัฐธรรมนูญฉบับถาวรเลย...นั่นคือ..."รัฐธรรมนูญชั่วคราว..กำหนด..รัฐธรรมนูญถาวร" ซึ่งผิดกฎเกณฑ์ที่ถูกต้องคือ..."รัฐธรรมนูญชั่วคราว..กำหนด..การสร้างประชาธิปไตย..และ..ผลสำเร็จของการสร้างประชาธิปไตย..กำหนด..รัฐธรรมนูญฉบับถาวร"...!!!

ดร.วิษณุ เครืองาม..นักลัทธิรัฐธรรมนูญของลัทธิเผด็จการที่ทำ คมช.พังมาแล้ว...กำลังทำให้ คสช.พังอีก..โดยร่างรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวผิดหน้าที่ผิดขั้นตอน นั่นคือ...
- "เอารัฐธรรมนูญชั่วคราว..ทำลายขั้นตอนการสร้างประชาธิปไตย"...!!!
- "เอารัฐธรรมนูญชั่วคราว..กำหนด..รัฐธรรมนูญถาวร"..ไม่กำหนดการสร้างประชาธิปไตย และไม่เอาผลสำเร็จของการสร้างประชาธิปไตย..กำหนด..รัฐธรรมนูญฉบับถาวร...!!!

ผลร้ายที่จะเกิดขึ้นคือ..."จะไม่มีระบอบประชาธิปไตยเลย...ทั้งสมบูรณ์..หรือ..ไม่สมบูรณ์"...จะมีแต่.."ระบอบเผด็จการรัฐสภาที่สมบูรณ์"..เท่านั้น และระบอบเผด็จการรัฐสภาสมบูรณ์นี้จะทำลายประเทศชาติและประชาชน..โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะทำลาย..คณะรักษาความสงบแห่งชาติให้พังไปในที่สุด เช่น เดียวกับ รสช. คมช.อย่างน่าเสียดายยิ่ง...จึงขอให้ คสช.พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา..หยุดรัฐธรรมนูญชั่วคราวที่ผิดพลาดนี้เดี๋ยวนี้..และใช้นโยบายสร้างประชาธิปไตยให้สำเร็จ..แล้วจึงค่อยร่างรัฐธรรมนูญสะท้อนระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริง และรักษาระบอบประชาธิปไตยที่แท้จริงไว้ตามกฎเกณฑ์ที่ถูกต้องต่อไป ไม่ผิดพลาดซ้ำรอยประวัติศาสตร์รัฐธรรมนูญทั้ง 18 ฉบับที่ผ่านมาอีกต่อไป...หลุดพ้นจากลัทธิรัฐธรรมนูญอุบาทว์..ไปสู่..ลัทธิประชาธิปไตยอันเจริญศิวิไลซ์ตามแนวทางของ ร.5 ร.6 ร.7 และนโยบาย 66/23 ต่อไป

หมายเหตุ...ถ้าจำเป็นจะต้องมี.."รัฐธรรมนูญชั่วคราว" หรือ "รัฐธรรมนูญเฉพาะกาล"..ก็ขอให้แก้ไขตามแบบอย่างรัฐธรรมนูญเฉพาะกาล 12 มาตราของสมเด็จพระปกเกล้า ร.7 ก็จะนำไปสู่ความสำเร็จของการสร้างประชาธิปไตย..และการร่างรัฐธรรมนูญฉบับถาวรที่เป็นประชาธิปไตยที่ถูกต้องยั่งยืนยาวนานตลอดไป เช่น รัฐธรรมนูญของประเทศประชาธิปไตยทั้งหลายทั่วโลก...ที่เขาสร้างประชาธิปไตยให้แล้วเสร็จก่อน...แล้วจึงร่างรัฐธรรมนูญมารักษาประชาธิปไตยไว้ต่อไป...ไม่ใช่ร่างรัฐธรรมนูญก่อนสร้างประชาธิปไตย..หรือ..สร้างประชาธิปไตยด้วยการร่างรัฐธรรมนูญ..อันเป็นการ.."กลับหัวกลับหาง" หรือ "การปลูกต้นไม้ทางยอด" หรือ "เอาโรงศพมาเป็นเปลเลี้ยงเด็ก" ..ดังเช่นความเห็นผิดมิจฉาทิฎฐิที่ครอบงำประเทศไทยมา 82 ปีแล้ว

"ถ้าเอาอย่างคณะราษฎร..ยึดถือปฏิบัติลัทธิรัฐธรรมนูญ..ก็ล้มเหลวพังแน่นอน"
"ถ้าเอาอย่างพระปกเกล้า..ยึดถือปฏิบัติลัทธิประชาธิปไตย..ก็สำเร็จชนะแน่นอน"
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา..จงเลือกเอาเถิดว่าจะเอา..แนวทางสำเร็จมีชัยชนะ...หรือล้มเหลวพ่ายแพ้พังไปในที่สุด...???
“เมื่อใช้นโยบาย...ไม่มีปัญหาใดๆ”...แต่... “เมื่อใช้รัฐธรรมนูญ...มีปัญหาใหญ่ทันที”...!!!

ขอให้ท่านโชคดีเถิดเทอญ...!!!

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และหยุดภัยของรัฐธรรมนูญชั่วคราวของลัทธิเผด็จการให้ทันต่อสถานการณ์ และเริ่มต้นสร้างประชาธิปไตยด้วยนโยบายให้เสร็จ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ขอแสดงความนับถืออย่างยิ่ง

(นายคงฤทธิ์ สีหานาถ)
รักษาการณ์กรรมการสภาประชาชนปฏิวัติสันติแห่งชาติ

(นายสมาน ศรีงาม)
ที่ปรึกษากรรมการสภาประชาชนปฏิวัติสันติแห่งชาติ
เลขาธิการทั่วไปขบวนการประชาธิปไตยแห่งชาติ
ประธานคณะธรรมยาตรากอบกู้รักษาผืนแผ่นดินไทยในกรณีเขาพระวิหาร-มณฑลบูรพา

(จ.ส.ต.พันศักดิ์ คงแสง)
กรรมการสภาประชาชนปฏิวัติสันติแห่งชาติ

(นายพัสไสว แก้วน้ำ)
รักษาการณ์เลขาธิการกรรมการสภาประชาชนปฏิวัติสันติแห่งชาติ

(นางไพทูล สุนทอง)
ประธานหลักสูตรศึกษาอบรมหล่อหลอมนักปฏิวัติสันติรุ่นที่ 1 สถาบันปฏิวัติสันติพุทธ
อหิงสาธรรม สภาประชาชนปฏิวัติสันติแห่งชาติ ขบวนการประชาธิปไตยแห่งชาติ
กรรมการสภาประชาชนปฏิวัติสันติแห่งชาติ

(นายวิชาญ ภูวิหาร)
กรรมการสภาประชาชนปฏิวัติสันติแห่งชาติ
กรรมการคณะธรรมยาตรากอบกู้รักษาผืนแผ่นดินไทยในกรณีเขาพระวิหาร-มณฑลบูรพา

(น.ส.แก้วแสงบุญ ธรรมให้ดี)
กรรมการสภาประชาชนปฏิวัติสันติแห่งชาติ

(น.ส.พรรณี กุลชาติ)
กรรมการสภาประชาชนปฏิวัติสันติแห่งชาติ
กรรมการคณะธรรมยาตรากอบกู้รักษาผืนแผ่นดินไทยในกรณีเขาพระวิหาร-มณฑลบูรพา

(นางบัวสี สะอาดเอี่ยม)
กรรมการสภาประชาชนปฏิวัติสันติแห่งชาติ

(นางงามจิตร จันทร์น้อย)
กรรมการสภาประชาชนปฏิวัติสันติแห่งชาติ

(นายเส็ง วงษ์พรหม)
กรรมการสภาประชาชนปฏิวัติสันติแห่งชาติ

(นายสุริยา สุนทอง)
กรรมการสภาประชาชนปฏิวัติสันติแห่งชาติ

(น.ส.เสาวลักษณ์ กัลยา)
กรรมการสภาประชาชนปฏิวัติสันติแห่งชาติ
...............................................................................................................................
สภาประชาชนปฏิวัติฯ 463 ซอยสวนพลู 8 แขวง/เขตสาทร กรุงเทพฯ โทร. 0898860868
..............................................................................................................................

ตัวอย่างรัฐธรรมนูญเฉพาะกาลของลัทธิประชาธิปไตยที่ถูกต้อง...!!!

ร่างรัฐธรรมนูญเฉพาะกาลของสมเด็จพระปกเกล้าที่ถูกต้อง...!!!

มาตรา ๑ อำนาจอธิปไตยเป็นของพระมหากษัตริย์

มาตรา ๒ พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีนายหนึ่งซึ่งรับผิดชอบ ต่อพระองค์ในการบริหารราชการแผ่นดินทั้งปวง และให้นายกรัฐมนตรีอยู่ในตำแหน่งตามพระราชอัธยาศัย

มาตรา ๓ ให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับผิดชอบในการแต่งตั้งและถอดถอนรัฐมนตรีทั้งหลาย ซึ่งเป็นเจ้ากระทรวงต่าง ๆ โดยนายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับผิดชอบต่อพระมหากษัตริย์ในกิจการทั้งปวงของแต่ละกระทรวง และจะต้องรับผิดชอบในการปฏิบัติภารกิจตามนโยบายทั่วไปของรัฐบาล ดังที่มีพระบรมราชโองการ และรับผิดชอบในการประสานงานระหว่างกระทรวงต่าง ๆ เพื่อให้บรรลุนโยบายดังกล่าว

มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีแต่ละนายรับผิดชอบโดยตรงต่อนายกรัฐมนตรี สำหรับงานในกระทรวงของตน และให้ร่วมปฏิบัติภาคกิจตามนโยบายทั่วไปของรัฐบาลตามคำบัญชาของนายกรัฐมนตรี

มาตรา ๕ ให้มีการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยให้คณะรัฐมนตรีประกอบด้วยรัฐมนตรีทุกนาย คณะรัฐมนตรีอาจอภิปรายปัญหาสำคัญอันเป็นประโยชน์ได้เสียร่วมกันได้แต่ให้ นายกรัฐมนตรีเป็นผู้รับผิดชอบในการลงมติทั้งปวง

มาตรา ๖ ให้นายกรัฐมนตรีกราบบังคมทูลพระมหากษัตริย์เพื่อขอรับพระบรมราชวินิจฉัย ในปัญหาทั้งปวงอันเกี่ยวด้วยนโยบายทั่วไป และไม่ว่ากรณีจะเป็นประการใดก็ตาม นายกรัฐมนตรีต้องปฏิบัติตามพระบรมราชโองการ

มาตรา ๗ พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งมนตรี 5 นาย ประกอบกันเป็น อภิรัฐมนตรีสภา ให้นายกรัฐมนตรีเป็นสมาชิกอภิรัฐมนตรีสภาโดยตำแหน่ง แต่ห้ามรัฐมนตรีนายอื่นดำรงตำแหน่งสมาชิกด้วย อภิรัฐมนตรีไม่มีอำนาจทางบริหาร ไม่ว่าในกรณีใด ๆ ก็ตาม อำนาจหน้าที่ของอภิรัฐมนตรีสภามีเพียงถวายความคิดเห็นแด่พระมหากษัตริย์ ในปัญหาเกี่ยวด้วยนโยบายทั่วไป หรือปัญหาอื่นใดอันมิใช่รายละเอียดเกี่ยวกับงานบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลเท่านั้น อภิรัฐมนตรีสภาไม่มีอำนาจเสนอแนะให้แต่งตั้งใครดำรงตำแหน่งใดตลอดจนเสนอแนะรายละเอียดเกี่ยวกับการปกครอง อย่างไรก็ตาม อภิรัฐมนตรีสภามีอำนาจเปลี่ยนแปลงผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรี

มาตรา ๘ พระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งและถอดถอนสมาชิกองคมนตรีสภาตามพระราชอัธยาศัย

มาตรา ๙ ภายในระยะเวลา 3 วันนับแต่วันเสวยราชสมบัติ พระมหากษัตริย์จะทรงเลือกบุคคลหนึ่ง เป็นทายาทด้วยคำแนะนำและยินยอมขององค์มนตรีสภา บุคคลผู้จะเป็นรัชทายาทได้นั้น จะต้องเป็นโอรสของพระมหากษัตริย์และสมเด็จพระบรมราชินี หรือเป็นบุคคลอื่นซึ่งอยู่ในราชตระกูล แต่ทั้งนี้ไม่จำต้องอยู่ในลำดับฐานะมีพระอิสริยยศสูง หรือมีอาวุโสสูง การกำหนดบุคคลใดให้เป็นรัชทายาทย่อมไม่อาจเพิกถอนได้ แต่อาจถูกทบทวนใหม่ได้ในเวลาสิ้นสุดของทุกกำหนด 5 ปี โดยพระมหากษัตริย์ด้วยคำแนะนำและยินยอมขององคมนตรีสภา หากพระมหากษัตริย์สวรรคตก่อนมีการเลือกรัชทายาท ให้องคมนตรีสภาเลือกบุคคลหนึ่งขึ้นเป็นรัชทายาททันทีหลังจากที่พระ มหากษัตริย์สวรรคต ไม่ว่ากรณีจะเป็นประการใดก็ตาม สามในสี่ของสมาชิกองคมนตรีสภา ซึ่งอยู่ในราชอาณาจักร ย่อมประกอบกันเป็นองค์ประชุมกำหนดตัวรัชทายาท

มาตรา ๑๐ ภายใต้บังคับแห่งพระราชอำนาจสูงสุด ศาลฎีกาและศาลอื่นใดทั้งหลายซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงตั้งขึ้นเป็นคราว ๆ เป็นผู้ใช้อำนาจตุลาการ

มาตรา ๑๑ อำนาจสูงสุดทางนิติบัญญัติเป็นของพระมหากษัตริย์

มาตรา ๑๒ การแก้ไขเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญนี้กระทำได้โดย พระมหากษัตริย์ประกอบด้วยคำแนะนำและยินยอมจากสามในสี่ของสมาชิกองคมนตรีสภา